วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สรุปบทที่ 2 (ต่อ)

✪ Blog  

          Blog มาจากคำเต็มว่า WeBlog บางครั้งอ่านว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log
          
      ↘ Blog คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal)ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาเป็นเรื่องใดก็ได้ ซึ่งข้อมูลประกอบด้วยข้อความ, รูปและลิงค์
      ↘ การเพิ่มบทความให้กับ blog ที่มีอยู่ เรียกว่า “blogging”
      ↘ บทความใน blog เรียกว่า “posts” หรือ “entries”
      ↘ บุคคลที่โพสลงใน “entries”เรียกว่า “blogger


◣ จุดเด่นของ Blog ◥ 

       ↘ เป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านที่เป็นกล่มุ เป้ าหมายได้ชัดเจน
       ↘ มีความสะดวกและง่ายในการเขียน Blog ทำให้สามารถเผยแพร่ความคิดเห็นของผู้เขียน blog ได้ง่ายขึ้น
       ↘ Comment จากผู้ที่สนใจเรื่องเดียวกันบางครั้งทำให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ

◣ ข้อแตกต่างของ Blog กบเว็บประเภทอื่น  

       ↘ การใส่ข้อมูลใหม่ทําได้ง่าย
       ↘ มีtemplate อัตโนมัติช่วยจัดการมีการกรองเนือหาแยกตามวัน ประเภทผู้แต่งหรืออื่นๆ
       ↘ ผู้ดูแลจัดการ blog สามารถเชิญ หรือ เพิ่มผู้แต่งคนอื่นโดยจัดการเรื่องการอนุญาตและการเข้าถึงข้อมูลได้โดยง่าย
       ↘ เจ้าของ blog จะเป็ นผู้สร้างหัวข้อสนทนาเท่านัน

◣ Blog และวิถีของผู้คน 

       ↘ Blogger หลายคนสนับสนุนแนวคิดเรื่อง open source 
       ↘ Blog ส่งผลกระทบต่อสังคมได้เช่นบาง Blog นั นลูกจ้างอาจจะก่อรําคาญใจต่อนายจ้างและทําให้บางคนถูกไล่ออก
       ↘ คนใช้Blog ในทางอื่นๆ เช่นส่งข้อความสู่สาธารณะ อาจจะมีปัญหาตามมาได้คือการไม่เคารพทรัพย์สินทางปัญญา หรือการให้ข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือได้
       ↘ บางครั งการสร้างข่าวลือก็เอื้อประโยชน์ต่อสื่อสารมวลชนที่สนใจเรื่องนัน ๆ ได้
       ↘ Blog เป็นการรวบรวมความคิดของมนุษย์สามารถนํามาใช้ช่วยกบปัญหาด้านจิตวิทยา , อาชญากรรม , ชนกลุ่มน้อย ฯลฯ
       ↘ Blog เป็นช่องทางเผยแพร่งานพิมพ์อยางประหยัดและมีประสิทธิภาพ



◣ Internet Forum 

- ทำหน้าที่คล้าย bulletin board และ newsgroup
- มีการรวบรวมข้อมูลทั่ว ๆไป เช่น เทคโนโลยี, เกม,คอมพิวเตอร์, การเมือง ฯลฯ
- ผู้ใช้สามารถโพสหัวข้อลงไปในกระดานได้
- ผู้ใช้คนอื่นๆ ก็สามารถเลือกดูหัวข้อหรือแม้กระทั้งโพสความคิดเห็นของตนเองลงไปได้

◣ Wiki 

       ↘ Wiki อ่านออกเสียง "wicky", "weekee" หรือ "veekee"
       ↘ สามารถสร้างและแก้ไขหน้าเว็บเพจขึ้นมาใหม่ผ่านทางบราวเซอร์ โดยไม่ต้องสร้างเอกสาร html เหมือนแต่ก่อน
       ↘ Wiki เน้นการทำระบบสารานุกรม, HOWTOs ที่รวมองค์ความรู้หลายๆ แขนงเข้าไว้ด้วยกันโดยเฉพาะมีเครื่องมือที่ใช้ทำ Wiki หลายอย่าง เช่น Wikipedia เป็นต้น
       ↘ Wikipedia เป็นระบบสารานุกรม (Encyclopedia) สาธารณะที่ทุกคนสามารถใส่ข้อมูลลงไปได้
รองรับภาษามากกว่า 70 ภาษารวมทั้งภาษาไทย
       ↘ มีการประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์วิกิที่สำคัญยิ่งในการสร้างสารานุกรม ที่เปิดโอกาสให้ใครก็ได้มาร่วมกันสร้างสารานุกรมที่ http://www.wikipedia.org
       ↘ วิกิพีเดียในภาคภาษาไทยที่ http://th.wikipedia.org
       ↘ ในปัจจุบันวิกิพีเดียถือว่าเป็นแหล่งความรู้ที่สำคัญ
       ↘ ซอฟต์แวร์เพื่อสังคมที่ดี พึงคงคุณลักษณะของการเปิดพื้นที่ให้กับปัจเจกบุคคลใน
การสื่อต่อสาธารณะโดยมีการควบคุมน้อยที่สุด
       ↘ ซอฟต์แวร์เพื่อสังคมที่ดีพึงคงคุณลักษณะของการเปิดพืนที่ให้กับปัจเจกบุคคล ในการสื่อต่อสาธารณะโดยมีการควบคุมน้อยที่สุด
       ↘ เพื่อให้การประมวลสังคม เป็นไปอยางอิสระปราศจากการครอบงําจากเจ้าของ เทคโนโลยีให้มากที่สุด
       ↘ ดังนันการสร้างหรือพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อสังคมใดๆ พึงตระหนักถึงหลักการเคารพในสิทธิของปัจเจก (individual) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้


◣ Folksonomy 

       ก่อนหน้าการกาเนิดขึ้นของปัจเจกวิธาน โดยทั่วไปแล้วได้มีการจัดกลุ่มการจัดระเบียบและค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตโดยทั่วไปมี 3 แบบ คือ

       ↘ ค้นหาในเนือความ (Text Search)
       ↘ เรียงเนือหาตามลําดับเวลา (Chronological)
       ↘ แยกตามกล่มประเภทุ (Category, Classification)

ค้นหาในเนือความ (Text Search)
       ↘ ตัวอย่างเช่น Google ที่ก่อตังโดย Sergery Brin และ Larry Page 
       ↘ ได้ออกแบบเพือจัดอันดับความสําคัญของเว็บโดยคํานวณจากการนับ Link จากเว็บอื่นที่ชี้มาที่เว็บหนึ่ง ๆ
       ↘ เป็นที่น่าติดตามวาจะมีเทคนิควิธีในการค้นหาข้อมูลใหม่  ๆ
เรียงเนือหาตามลําดับเวลา (Chronological)
       ↘ เนื้อหาข้อมูลจะถูกจัดเก็บเรียงลําดับเวลาโดยแสดงตามเวลาใหม่ล่าสุดก่อน เช่น เว็บไซต์ประเภทข่าวอย่าง CNN, BBC และ google news เนือหาเก่าจะตกไปอยูด้านล่าง Blog ก็ใช้วิธีจัดเรียงตามเวลาเช่นกัน
       ↘ ทังนี้หากต้องการอ่านเนือหาเก่าก็สามารถคลิกดูที่ปฏิทินได้
แยกตามกลุ่มประเภท (Category, Classification)
       ↘ การจัดระเบียบแบบนียึดเอาหัวข้อเป็นหลักแล้วแยกประเภทออกไป เช่น แบ่งหนังสือเป็นประเภทธุรกิจ, หนังสือเด็ก, นวนิยาย, คอมพิวเตอร์, ศาสนา, วิทยาศาสตร์ฯลฯลักษณะอื่น ๆ
       ↘ จะช่วยให้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น